นานนมมาแล้วที่เฝ้าตามเชียร์ทีมรัก ‘ผีแดง’ ยูไนเต็ด ซึ่งในช่วงอายุขนาดนี้ตัวเองยอมรับว่าได้เสพกับความสุขที่ได้มองเห็นทีมที่ตัวเองเชียร์ประสบความสำเร็จ แม้ว่าระยะหลังๆ มานี้จะโดนใครหลายคนเหน็บว่าเป็น ‘ขาลง’ ของผีแดง
แน่นอนความรู้สึกมันย่อมไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้แสดงออกจนเด่นชัด จะอาศัยลูก ‘นิ่ง’ เข้าว่า ใครจะถาโถมยังไงยามทีมรักทำผลงานไม่เป็นสับปะรด ก็ปิดหูปิดตาตลอด และความรู้สึกหนึ่งที่มีมาตลอดเป็นความรู้สึกที่พูดไม่เต็มปากว่าตะหงิดๆ หรือบางเบา ที่ว่าให้รู้สึกคันในใจเกาเท่าไรก็ไม่หายว่า หลายๆ สมาคมกำลัง ‘ต่อต้าน’ ทีมยักษ์ใหญ่ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะมีอุปสรรค์ไปซะหมด…(แต่ก็ประสบความสำเร็จซะส่วนใหญ่…อิอิ)
ถามว่าทำไมคิดเช่นนั้น ไม่รู้สิ อาจจะใช้ความรู้สึกส่วนตัว กับภาพที่ออกมาเป็นตัวตัดสินมั๊ง เบสิกๆ อย่างเมื่อก่อน การที่ทีมจะซื้อนักเตะฝีเท้าดีสักคน สิ่งแรกที่ข้อเสนอจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ร่อนไป เรทราคาของนักเตะระดับเกรด B จะถีบตัวขึ้นอย่างน้อยก็ไปแตะเพดานระดับ A โน่น
เดเมียน ดัฟฟ์, เดวิด ดันน์ หรือแม้กระทั้ง พี่เหยินน้อย โรนัลดินโญ่ เหล่านี้คือตัวนักเตะที่ทีมเคยยื่นข้อเสนอ และแห้วมาแล้ว ซึ่งกล้าพูดได้เต็มปากว่า 70 เปอร์เซนต์ ที่ผีแห้ว เพราะไม่สู้ค่าตัว เช่นเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ ที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีอยู่กับ อาร์เซนอล…แต่เดี๋ยวก่อน ที่ไม่สู้ค่าตัว ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีตังค์นะขอรับ…แต่อาจเป็นเพราะบอร์ดเห็นว่า ราคา มันไม่ได้แปลผันตามผลประโยชน์ที่จะได้รับตะหาก เลยกินแห้วกันไป
แล้วทำไม ‘ไอ้หมูพลิ้ว’ เวย์น รูนีย์ ถึงได้โอเคละ ราคาทะลักจุดเดือดเพดานขนาดนั้น ข่าวแว่วแรกที่ได้ยินมาว่า ทีมจะซื้อหมูพลิ้ว นั้น ส่วนตัวแล้วเฉยๆ มาก แต่พอมาระแคะระคายว่าเรื่องค่าตัวจะต้องสูงแน่นอน ก็รู้สึกว่าเฮ้ยจะดีเหรอ สู้ไปทำไมอะ กลัวนะ เพราะกองหน้าคนนี้ดูผิวเผินแล้ว มันตุ๊ต๊ะตุ้ยนุ้ย โอเคความสามารถระดับที่ได้รับฉายาว่า ‘Wonder Kid’ นั้น มันพอจะเป็นเหตุผลได้บ้าง แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า มันจะเป็นแค่แสงแวบๆ แปลบปราบมาเท่านั้น…ซึ่งตอนนี้แนวโน้มก็ดูว่าจะพอเป็นไปได้ซะด้วย เพราะรูนีย์ อลังการแค่นัดเปิดตัวแค่นั้นเอง….
น้องๆ หลายคนบอกว่า เอาเงินก้อนนี้ไปทุ่มให้กับกองหน้ายิงกระจายอย่าง อาเดรียโน่ ไม่ดีกว่าเหรอใช้งานได้เลย ไม่ต้องขุนให้เหนื่อย ..ถูกต้อง ตรงนี้เห็นด้วย แต่ก็คงต้องถามต่อว่า แล้วอินเตอร์ฯ มันจะขายของมันมั๊ยละ…ถ้าขาย ค่าตัวก็ไม่หย่อนไปกว่ารูนีย์ ที่อายุแค่ 19 ปีเป็นแน่แท้
พักเรื่องซื้อขายค่าตัวไอ้หมูไว้แค่นี้ แต่ภาพรวมของประเด็นที่คันในวันนี้ก็ตรงที่ว่า ทำไมไม่ว่าจะทำอะไรผีแดงเหมือนมักจะโดน ‘ต่อต้าน’ จากสมาคม หรือบุคคลรอบข้าง ไม่ต้องท้าวความให้ยาวยืดยาดไปใหนไกล กรณีน้องหมูรูนีย์ โดนแบน 3 เกม จากการจงใจศอก ซึ่งโอเค ดูแล้วในความรู้สึกคือลูกนั้นฟาลว์จริงๆ ประกอบกับโอเวอร์ แอ็คชั่น ของคู่กรณี แต่ทำไมต้องแบนกันถึง 3 นัด บอกตามตรงว่าอันนี้ ‘nonsense’ โดยสิ้นเชิงฮะ อันนี้เด็ก ป.3 แถวบ้านยังงงเกาหัวยิกๆบอกว่า ..อะไรวะ
นอกจากจุดที่ท่านๆ FA ใช้ในการพิพากษาของรูนีย์ แล้ว ไม่มีอะไรมากเกินไปกว่า ไอ้หมูมัน ‘ตั้งใจ’ เหวี่ยงศอกใส่หน้าผู้อื่น แต่อันนี้ไม่รู้จะมีใครคิดเหมือนกันบ้างว่า ถ้าคนที่จงใจเหวี่ยงศอกครั้งนั้นมันไม่ใช่รูนีย์ ที่เผอิญเป็น ‘Center spot’ ของสื่อในฐานะซูเปอร์สตาร์ผีแดง เรื่องราวมันจะดูแรงขนาดนี้หรือ เรื่องราวต่างๆ ดูจะเหมือนจะจบลงหลังสิ้นเสียงนกหวีด ถ้าบรรดาสื่อต่างๆ ไม่พากันมาคุ้ยหลังเกม….
หลายคนอาจจะไม่แปลกใจ เพราะรู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่า สมาคมฟุตบอลอังกฤษ กับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือภาพรวมคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการที่เซอร์ท่านมักบ่นกระปอดกระแปดเรื่องทีมชาติจัดคิวเตะช่วง ‘Hight Season’ ของบอลลีก หรือว่าเรื่องที่ป๋ามักจะมาโวยเรื่องผู้ตัดสิน รวมถึงการออกโรงประนามมาตรฐานการทำงานของ FA ซึ่งสาเหตุมันก็โยงกันมาเป็นห่วงโซ่จากในสนาม
ถ้าจะคิดในแง่ลบแบบน้อยเนื้อต่ำใจสุดกู่ ก็คงจะต้องบอว่าเหมือนมีใครสักคนที่ปรับเปลี่ยนกฎบัญญัติมันขึ้นมา ณ นาทีนั้นได้เลยยามที่ทีมอย่างผีแดงมีส่วนเกี่ยวของใน ‘Incident’ เหล่านั้น ซึ่งมันอธิบายเป็นคำพูดได้ลำบากเหมือนกับโทษแบนครั้งนี้ของรูนีย์ ตรงนี้มั่นใจว่าตัวผู้เขียนไม่ได้รู้สึกไปเพียงคนเดียวแน่นอน แต่คนที่รู้สึกได้ด้วยคือป๋าเฟอร์กี้ ที่กระซิบดังๆ มาเลยว่าเหมือนโดนเล่นงานชนิดไม่ชอบธรรมจาก ‘football powers’!!
อีกเรื่องที่คันและคาใจมาเป็นปีๆ และที่ยิ่งทำให้มันตะขิดตะขวงมากขึ้นไปอีกเป็นกองก็เรื่องโทษแบน 8 เดือนของ ‘พี่ปากเป็ด’ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แค่โทษฐานโดดตรวจโด๊ปที่เผอิญตัวเองโดนสุ่มขึ้นมา FA ฟันเปรี้ยงออกมาโทษคือ 8 เดือนทุกถ้วยทุกรายการ ความรู้สึกตอนนั้นมันบอกว่าทำใจยอมรับซะเถอะ…
ทว่า ต่อมาเมื่อปลายปีก่อนนี้สดๆ กับรายของกองหน้าโรมาเนียนจอมซี๊ด อาเดรียน มูตู มันสูดโคเคนเห็นๆ ผู้เขียนเนี่ยแหละทำสกู๊ปตอนมันสูดเองกะมือ ทว่า ไม่รู้เพราะอะไรมันโดนแค่ 7 เดือน ซึ่งตรงนี้ขนาดสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่อังกฤษยังพาดหัวตัวเบ้อเร่อเปรียบเทียบตัวเลข ‘7 กับ 8’ ของ ริโอ และชั่งน้ำหนักความผิดให้เห็นกันจะๆ ไม่ทราบว่า FA ท่านรู้สึกอะไรหรือเปล่า
และที่ให้รู้สึกว่า ผีเราโดนหลายด้าน ‘หมั่นใส้’ มากกว่าทีมบุญทุ่มหน้าใหญ่ของอากู๋มากมายนัก คือมีคนออกมาแสดงความเห็นใจ ‘ไอ้ขี้ยา’ อย่างมูตู ซะมากมาย ขณะที่รายของ ริโอ มีแต่คน ‘เหยียบซ้ำ’ นี่แค่กรณีตัวอย่างที่ค้างคาใจมาเป็นแรมปี ที่ผ่านไปก่อนหน้าน้องหมู ก็พี่ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ยอมรับโดยสดุดี หลังไปเตะโหดใส่ แอชลี่ย์ โคล 3 เกมคือโทษที่รับไป
อีกกรณี เกี่ยวเนื่องจากเกมนี้ ‘เหี่ยวฟ้า’ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่สวมบทอาเจ๊ปากจัดด่าสาดรุด ฟาน นิสเตลรอย เชื่อเหอะว่า กรณีนี้ถ้าเป็นเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำละก็ ไม่แค่โดนปรับ 6 หมื่นปอนด์ หรอก แถมเรื่องราววีรเวรที่เด็กปืนร่อนทั้งพิซซ่า และซุบมาใส่กบาลปูชนียบุคคลอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ ยังเงียบฉี่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างงั้น
เอาละ เรื่องราวตอนนี้จบแล้วก็จบกันไป โทษแบนของ รูนีย์ เริ่มไปแล้วตั้งแต่นัดเสมอสเปอร์ส 0-0 ตอนนี้ผีเหลือกองหน้าใช้งานเพียงตัวเดียวคือ อลัน สมิธ คาดว่าทางป๋าและผีแดงพยายามทำดีที่สุดแล้วที่ไม่อุทธรณ์ กรณีของรูนีย์ เพราะว่า อีกสองเกมที่รูนีย์ จะพลาดสงสนามคือ เอฟเอ คัพ รอบสาม กับ เอ็กเซเตอร์ และแมตช์สำคัญไม่น้อยกับเชลซี ในรอบตัดเชือกลีก คัพ วันที่ 12 มกราคม และจะกลับมาได้ในแมตช์ ‘เร้ดไฟต์’ วันที่ 15 พอดี
หวังใจว่า การกลับมาจากโทษแบนของหมูพลิ้ว จะเป็นการกลับมาที่คุ้มค่า บุกเก็บ 3 แต้มเต็มจากแอนฟิลด์ ให้ได้นะ น้องหมูนะ …
ปลายฝน
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC